กพร. จับมือนิปปอนเพนต์ ปั้นสุดยอดช่างสีรถยนต์

          นายวิชัย คงรัตนชาติ รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยหลังจากรับมอบ “ศูนย์ฝึกอบรมช่างสีรถยนต์” จากบริษัทนิปปอนเพนต์ (ประเทศไทย) จำกัด ว่าในปัจจุบันตลาดมีความต้องการช่างสีรถยนต์เป็นจำนวนมาก เพราะนอกจากเป็นกำลังแรงงานในฐานการผลิตรถยนต์แล้ว ยังเป็นช่างในสถานประกอบกิจการในการซ่อมแซมรถยนต์เมื่อได้รับอุบัติเหตุหรือต้องการเปลี่ยนสีใหม่ ซึ่งความต้องการอยู่ที่ประมาณ 25,000 คน และแรงงานใหม่อีก 2,000 คนต่อปี กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) จึงร่วมกับบริษัทนิปปอนเพนต์ (ประเทศไทย) จำกัด ผลิตช่างฝีมือตอบสนองความต้องการดังกล่าว รวมทั้งเป็นการยกระดับช่างรถสียนต์และช่างอื่นๆ ให้เทียบเท่ามาตรฐานอาเซียนและสากล ซึ่งทั้งสองหน่วยงานได้เปิดมิติใหม่ของความร่วมมือด้วยการจัดตั้ง “ศูนย์ฝึกอบรมช่างสีรถยนต์” ในสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค (สพภ.) ทั้ง 12 แห่ง ประกอบด้วยสพภ. 1 สมุทรปราการ สพภ. 2 สุพรรณบุรี สพภ. 3 ชลบุรี สพภ. 4 ราชบุรี สพภ. 5 นครราชสีมา สพภ. 6 ขอนแก่น สพภ. 7 อุบลราชธานี สพภ. 8 นครสวรรค์ สพภ. 9 พิษณุโลก สพภ. 10 ลำปาง สพภ. 11 สุราษฎร์ธานี และสพภ. 12 สงขลา โดยศูนย์ดังกล่าวจะมีอุปกรณ์การฝึกอบรมที่ทันสมัย วิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญในการถ่ายทอดความรู้ คาดว่าจะผลิตช่างสีรถยนต์ได้ไม่ต่ำกว่า 600 คนต่อปี การดำเนินของศูนย์จะอยู่ภายใต้ “โครงการ Protégé ยกระดับฝีมือช่างพ่นซ่อมสีรถยนต์ไทย” ส่วนความร่วมมือด้านอื่น เช่น ร่วมกันพัฒนาหลักสูตรช่างสีรถยนต์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสมัยใหม่ พัฒนาครูฝึกของกพร. เพื่อให้เป็นวิทยากรในการฝึกอบรมให้แก่แรงงานใหม่และแรงงานในสถานประกอบกิจการ และส่งเสริมสนับสนุนการฝึกอบรมและการแข่งขันที่เกี่ยวกับช่างสีรถยนต์ ที่ผ่านมาบริษัทให้การสนับสนุนผลิตภัณฑ์สีรถยนต์ซึ่งได้นำไปใช้ในการฝึกอบรม “เทคนิคการใช้ผลิตภัณฑ์สีรถยนต์” และการแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติ ระดับภาค ครั้งที่ 26 สาขาสีรถยนต์ ที่ผ่านมา

          ด้านนางสาวคมคาย ธมะสุข ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลและศูนย์ฝึกอบรม บริษัทนิปปอนเพนต์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าสำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ บริษัทฯ จะสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมช่างสีรถยนต์ในสพภ. 12 แห่ง พร้อมกับส่งผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมจากประเทศญี่ปุ่นไปให้ความรู้ สนับสนุนผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในการฝึกอบรม สนับสนุนทุนการศึกษา เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีแนวคิดจะผลักดันให้ผู้ผ่านการฝึกอบรมมีโอกาสเข้าทำงานในบริษัทรถยนต์ที่มีชื่อเสียงด้วย ทั้งหมดนี้ก็เพื่อยกระดับฝีมือแรงงานในสาขานี้ให้มีมาตรฐานระดับสากล และเป็นกำลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไปในอนาคต