การแสดงผล

+
-

พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย His Majesty King Bhumibol : The Father of Thai Skill Standard

ใต้ร่มพระปรีชาชาญ
พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย
His Majesty King Bhumibol : The Father of Thai Skill Standard

“พระมหากรุณาธิคุณเลิศล้ำ ต่อการพัฒนาฝีมือแรงงานไทยอย่างยั่งยืน”

ด้วยน้ำพระราชหฤทัย...พระมหากรุณาธิคุณ.. พระองค์เสด็จฯ มาทรงเป็นประธานในงานแนะแนวอาชีพและแข่งขันฝีมือช่างฯ วันจันทร์ที่ ๒ มีนาคม ๒๕๑๓
การแข่งขันฝีมือแรงงานในประเทศไทยนั้น ได้รับอิทธิพลและแนวคิดมาจากการแข่งขันฝีมือช่างระหว่างประเทศ ประกอบกับในขณะนั้นแนวทางการพัฒนาประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๑๐-๒๕๑๔) ได้สนับสนุนและส่งเสริมให้มีการพัฒนาทางด้าน
อุตสาหกรรมของประเทศ รวมถึงในภาคอุตสาหกรรมเริ่มมีการขยายตัว ทำให้แรงงานประเภทช่างฝีมือจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องขับเคลื่อนประเทศให้เจริญรุ่งเรืองทัดเทียมนานาอารยประเท
รัฐบาลในขณะนั้นได้พยายามหาทางแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งรีบ ด้วยการหาทางจัดบริการเกี่ยวกับการฝึกอาชีพและพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยจัดตั้งสถาบันฝึกอาชีพของหน่วยงานต่างๆ และ ให้การส่งเสริมการจัดอาชีวศึกษาเป็นพิเศษ นอกจากนั้นภาคเอกชนเองก็ยังได้ร่วมมือกับรัฐบาล ในการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนสนใจศึกษาด้านช่างฝีมือมากขึ้น
ที่สำคัญคือ การจัดการแข่งขันทางการช่าง เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเกิดความสนใจในด้านช่างฝีมืออย่างจริงจัง โดยกรมแรงงานกระทรวงมหาดไทยร่วมกับสโมสรโรตารี กรุงเทพฯ ใต้ และ อีกหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน จัดให้มีการแข่งขันช่างฝีมือขึ้นเป็นครั้งแรก โดยใช้ชื่องานว่า “งานแนะแนวอาชีพและแข่งขันฝีมือช่างของสโมสรโรตารี กรุงเทพฯ ใต้” เมื่อวันที่ ๒ - ๕ มีนาคม 2513 ณ ลุมพินีสถาน ทั้งยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราชบรมนาถบพิตร (ในหลวงรัชกาลที่ 9) เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานในงานดังกล่าว
การเสด็จฯ ในครั้งนั้น แสดงให้เห็นถึงความสนพระราชหฤทัยต่อความสำคัญของการช่างไทย ดังพระราชดำรัสที่พระราชทานในพิธีเปิดงานแนะแนวอาชีพและแข่งขันฝีมือช่างฯ ความว่า...
“ข้าพเจ้ามีความยินดี ที่ได้มาเปิดงานแนะแนวอาชีพและแข่งขันฝีมือช่างของสโมสร โรตารี กรุงเทพฯ ใต้ งานนี้นับว่าเป็นการริเริ่มที่ดี แสดงให้เห็นว่าเอกชนกับทางราชการ ร่วมมือและประสานงานกัน เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาวิชาชีพสาขาต่างๆ ซึ่งรวมเรียกในที่นี้ว่า “วิชาช่าง”
ช่างคือ ผู้ทำงานใช้ฝีมือ หมายความถึงผู้ใช้ฝีมือเป็นบริการแก่ผู้อื่น เช่น ช่างซ่อมวิทยุ ช่างเครื่องยนต์ ประเภทหนึ่ง กับผู้ใช้ฝีมือผลิตสิ่งต่างๆ เป็นสินค้า เช่น ช่างทอผ้า ช่างทำรองเท้า อีกประเภทหนึ่ง ช่างทุกประเภทเป็นกลไกสำคัญอย่างยิ่งในชีวิตของบ้านเมืองและของคนทุกคน เพราะตลอดชีวิตของเรา เราต้องอาศัยและใช้บริการหรือสิ่งต่างๆ ที่มาจากฝีมือของช่างอยู่ ทุกวี่ทุกวัน ผู้เป็นช่างจึงสมควรได้รับความเอาใจใส่สนับสนุนจากทุกๆฝ่าย ยิ่งในสมัยปัจจุบัน วิทยาการทุกอย่างเจริญก้าวหน้า ยิ่งจำเป็นต้องส่งเสริมมากเป็นพิเศษ เพื่อให้ได้ช่างที่มีความสามารถสูง ให้มีสิ่งใช้สอยที่มีคุณภาพดีและเพียงพอกับความต้องการ
ในการส่งเสริมนั้น มีปัญหาอันควรจะได้พิจารณาช่วยเหลืออยู่สามประการ 
ประการแรก ได้แก่ ปัญหาเรื่องการให้ความรู้ทางหลักวิชาการ และความรู้ทางการออกแบบ ประการที่สอง ได้แก่ ปัญหาเรื่องฝีมือ ซึ่งจะต้องปรับปรุงให้มีความประณีตและประสิทธิภาพ ได้มาตรฐานจริงๆ 
ประการที่สาม ได้แก่ ปัญหาเรื่องการจัดหางานและหาตลาด เพื่อช่วยให้ช่างได้มีงานทำ มีตลาดที่จะส่งสินค้าที่ผลิตได้ไปจำหน่าย การช่วยเหลือทั้งสามประการนี้ จะต้องกระทำให้สอดคล้องกันไป เพื่อให้ช่างมีรายได้และผลกำไร สำหรับนำมาเป็นทุนรอนสร้างฐานะและความก้าวหน้า ข้าพเจ้าใคร่ขอฝากความคิดทั้งนี้ไว้เป็นแนวทางปฏิบัติของท่านทั้งหลายต่อไป
ได้เวลากำหนดแล้ว ข้าพเจ้าขอเปิดงาน แนะแนวอาชีพและแข่งขันฝีมือช่าง ของสโมสรโรตารี กรุงเทพฯ ใต้ ณ บัดนี้ ขอให้งานดำเนินลุล่วงไปด้วยความเรียบร้อยสำเร็จประโยชน์สมตามเจตนาทุกประการ”
จากพระราชดำรัสแสดงให้เห็นถึงพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่ทรงห่วงใยต่อแรงงานไทยและทรงเห็นความสำคัญของมาตรฐานงานช่างของคนไทยเป็นอย่างยิ่ง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จึงได้นำเอาพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นแนวทางในการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อให้แรงงานไทยได้รับการ ยกระดับฝีมือ โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนา กำลังแรงงานให้มีมาตรฐาน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตสินค้าและบริการที่ดีแก่ผู้บริโภค เป็นการสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ถึงคุณภาพมาตรฐานของสินค้าและบริการที่ดี เพราะคำว่ามาตรฐานเป็นข้อกำหนดที่มีองค์ประกอบที่ทุกคนให้การยอมรับ ฉะนั้น แรงงานไทยจึงต้องใช้มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ เป็นเครื่องวัดตนเองในเรื่องของความรู้ ฝีมือ และทัศนคติ ในการทำงาน เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาศักยภาพของตนเองให้สูงขึ้น อันจะเป็นประโยชน์ต่อตนเองในด้านสวัสดิการ การได้รับค่าจ้างที่เป็นธรรมและการดำรงชีวิตที่ดีขึ้น นอกจากนี้ สถานประกอบกิจการยังสามารถเพิ่มผลิตภาพของสินค้าและบริการให้มีคุณภาพตามระดับฝีมือของช่าง และประโยชน์ในภาพรวมของประเทศ อันจะส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศไทยเป็นไป ในทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่แรงงานให้เป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ

ไฟล์แนบ :: 38_Images_7_01032562235928_.jpg ดาวน์โหลด